Sunday, July 7, 2019

ข้อมูลยา Pantoprazole (Controloc)

Pantoprazole (Controloc)


Pantoprazole (controloc) อยู่ในกลุ่มยาที่ชื่อ
proton-pump inhibitors (PPIs) ออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างกรดในกระเพาะอาหาร รักษาอาการที่เกี่ยวกับกรดในกระเพาะ
เช่น อาการแสบร้อนกลางอกจากโรคกรดไหลย้อน
แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น
ภาวะหลอดอาหารอักเสบหรือภาวะที่กระเพาะอาหารสร้างกรดมากผิดปกติ (Zollinger-Ellison syndrome) และสามารถใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะะรักษาภาวะ
ติดเชื้อในกระเพาะอาหารได้ เป็นต้น 
มักใช้รักษาอาการเป็นระยะเวลาสั้นๆ 4 - 8 สัปดาห์ หรือหากจำเป็นต้องใช้ระยะยาว ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง แต่โดยปกติแล้วยานี้มักถูกสั่งจ่ายจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ยานี้ควรใช้อย่างระมัดระวัง
เพราะอาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรงต่อร่างกายได้
Related image


คำเตือนในการใช้ยา pantoprazole(controloc)

  • ไม่ควรใช้ในผู้ที่มีประวัติแพ้ยาแพนโทพราโซล หรือยาที่มีลักษณะใกล้เคียง เช่น แลนโซพราโซล (Lansoprazole) โอมีพราโซล (Omeprazole)
    เอสโอมีพราโซล (Esomeprazole) หรือราบีพราโซล (Rabeprazole)
  • ผู้ป่วยโรคตับร้ายแรง
  • ผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) หรือโรคกระดูกบาง (Osteopenia) การใช้ยาแพนโทพราโซล อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเปราะแตกของกระดูกในบริเวณกระดูกสันหลัง ข้อมือ หรือสะโพกได้ ทั้งนี้ยังไม่มีงานวิจัยรองรับแน่นอนว่ายาแพนโทพราโซลคือสาเหตุที่ทำให้เกิดกระดูกเปราะแตกหรือไม่ แต่สามารถเกิดขึ้นได้ในผู้ที่ใช้ยาในปริมาณมากๆ หรือระยะเวลายาว
    รวมถึงผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไปด้วย
  • ระวังการใช้ยาแพนโทพราโซลในผู้ที่มีภาวะแมกนีเซียมในเลือดต่ำ (Hypomagnesemia) เนื่องจากยานี้ทำให้ระดับแมกนีเซียมในกระแสเลือดลดลงมากกว่าปกติ
  • ห้ามใช้ยาแพนโทพราโซลในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี
  • สตรีมีครรภ์ หรือผู้ที่วางแผนมีบุตรในอนาคต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาแพนโทพราโซล
  • ห้ามให้นมเด็กทารกหากมารดากำลังใช้ยาแพนโทพราโซล
    เนื่องจากยาชนิดนี้อาจปะปนออกมากับน้ำนมและเป็นอันตรายต่อทารกได้
  • การใช้ยาแพนโทพราโซล เป็นเวลานานอาจทำให้ร่างกายดูดซึม
    วิตามินบี 12 ได้ลดลงและทำให้ขาดวิตามินบี 12 ได้
  • ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรให้ทราบทุกครั้ง หากมีการใช้ยาชนิดอื่นๆ ร่วมกับการใช้ยาแพนโทพราโซล โดยเฉพาะยาต่อไปนี้
    • ยาแอมพิซิลลิน(Ampicillin) 
    • ยาคีโตโคนาโซล (Ketoconazole) 
    • ยาเมโธเทรกเซท (Methotrexate) 
    • ยาไมโคฟีโนเลต โมฟีทิล (Mycophenolate Mofetil) 
    • ยาวาร์ฟาริน (Warfarin) หรือยาคูมาดิน (Coumadin) 
    • ยาอะทาซานาเวียร์ (Atazanavir) หรือยาเนลฟินาเวียร์ (Nelfinavir) เป็นยาต้านไวรัสเอชไอวีหรือรักษาโรคเอดส์ 
    • ยาที่มีส่วนผสมของธาตุเหล็กอย่าง เฟอรัสฟูมาเรต
      (Ferrous Fumarate) เฟอรัสซัลเฟต (Ferrous Sulfate)
      หรือเฟอรัสกลูโคเนต (Ferrrous Gluconate)

ผลข้างเคียงจากการใช้ยาpantoprazole(controloc)

ผลข้างเคียงทั่วไปที่สามารถพบได้
  • ปวดหัว เวียนหัว
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ปากแห้ง
  • ปวดท้อง
  • มีลมในท้อง
  • ปวดข้อ
  • ท้องผูก
  • ท้องเสีย
  • นอนไม่หลับ
และควรมาพบแพทย์ทันทีหากมีอาการระดับรุนแรง ต่อไปนี้
  • เกิดภาวะพร่องแมกนีเซียมในเลือด อาจแสดงอาการ เช่น
    หัวใจเต้นเร็วหรือช้าผิดจังหวะ กล้ามเนื้อหดตัวเรื้อรัง
    หรืออาการชัก (Seizures)
  • อาการท้องร่วง (Clostridium Difficile-Associated Diarrhea)
    ซึ่งเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง หากพบว่าอาการท้องเสียยังไม่หายไป ร่วมกับมีอาการเจ็บปวดบริเวณท้องหรือกระเพาะอาหาร มีไข้
    และมีเลือดหรือมูกในอุจจาระ ผู้ป่วยควรพบแพทย์ทันที
  • ปวดกระดูก หรือ กล้ามเนื้อ
  • เกิดภาวะขาดวิตามินบี 12 อาจแสดงอาการ เช่น อาการเจ็บปวดที่ลิ้น
    รู้สึกอ่อนเพลียผิดปกติ รวมทั้งรู้สึกชาหรือเป็นเหน็บที่มือและเท้า
  • อาการภูมิแพ้รุนแรง หากพบว่ามีผื่นลมพิษขึ้นที่ผิวหนัง
    รู้สึกคันโดยเฉพาะที่ใบหน้า ลำคอ และลิ้น เวียนหัวอย่างรุนแรง
    รวมทั้งมีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของไต เช่น ปริมาณของปัสสาวะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ ควรรีบติดต่อแพทย์เพื่อรับคำปรึกษากับ
    ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด

ขนาดของยา pantoprazole(controloc)
ที่ใช้ในการรักษา

Pantoprazole มีในรูปแบบยาเม็ดที่ออกฤทธิ์ได้นานขนาด 20 และ 40 มิลลิกรัม และรูปแบบยาฉีดเข้าเส้นเลือดดำสำหรับใช้ในโรงพยาบาล โดยทั่วไป
แพทย์จะสั่งจ่ายยาขนาด 40 มิลลิกรัมต่อวัน นาน 4-8 สัปดาห์ในการรักษา
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาการและโรคที่เป็นด้วย
ยานี้ควรรับประทานในเวลาเดียวกันทุก ๆ วัน ควรรับประทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่งแม้ว่าอาการของคุณอาจจะดีขึ้นก่อนหน้านั้นก็ตาม

รูปแบบยาและการออกฤทธิ์ของยา pantoprazole(controloc) 

ยา pantoprazole ในรูปแบบเม็ดนั้นเคลือบด้วยสารที่ทนต่อกรดในกระเพาะอาหาร (Gastro-resistant Tablet) ทำให้ยาแตกตัวและดูดซึมได้ที่บริเวณลำไส้เล็ก
แล้วจึงไปออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างกรดที่กระเพาะอาหาร จึงแนะนำให้รับประทานยาก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ขณะท้องว่าง  ที่สำคัญ คือ ห้ามเคี้ยว แบ่งยาหรือบดยา เพราะจะทำให้สารที่เคลือบเม็ดยาเสียคุณสมบัติในการออกฤทธิ์ได้

การได้รับยา pantoprazole(controloc) เกินขนาด

ปัจจุบัน มีข้อมูลเกี่ยวกับการได้รับยา pantoprazole เกินขนาดค่อนข้างจำกัด
ซึ่งในการศึกษาผลของการได้รับยานี้เกินขนาดในหนูและสุนัขพบว่า
จะมีอาการซึม เดินเซ และมือสั่น หากคุณสงสัยว่าคุณ
หรือคนใกล้ตัวได้รับยาเกินขนาด ควรไปพบแพทย์ทันที

หากลืมรับประทานยา pantoprazole(controloc) ควรทำอย่างไร?

หากคุณลืมรับประทานยา ให้รับประทานทันทีที่นึกได้ แต่หากกำลังจะถึงเวลาที่ต้องรับประทานยาครั้งถัดไป ให้ข้ามยาที่ลืมเม็ดนั้นได้เลย
และไม่ควรรับประทานยาเกินกว่าที่แพทย์สั่ง

สั่งซื้อได้ทาง Line ID : @zww3579z

No comments:

Post a Comment