Pantoprazole (Controloc)
Pantoprazole (controloc) อยู่ในกลุ่มยาที่ชื่อ
proton-pump inhibitors (PPIs) ออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างกรดในกระเพาะอาหาร รักษาอาการที่เกี่ยวกับกรดในกระเพาะ
เช่น อาการแสบร้อนกลางอกจากโรคกรดไหลย้อน
แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น
ภาวะหลอดอาหารอักเสบหรือภาวะที่กระเพาะอาหารสร้างกรดมากผิดปกติ (Zollinger-Ellison syndrome) และสามารถใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะะรักษาภาวะ
ติดเชื้อในกระเพาะอาหารได้ เป็นต้น
proton-pump inhibitors (PPIs) ออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างกรดในกระเพาะอาหาร รักษาอาการที่เกี่ยวกับกรดในกระเพาะ
เช่น อาการแสบร้อนกลางอกจากโรคกรดไหลย้อน
แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น
ภาวะหลอดอาหารอักเสบหรือภาวะที่กระเพาะอาหารสร้างกรดมากผิดปกติ (Zollinger-Ellison syndrome) และสามารถใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะะรักษาภาวะ
ติดเชื้อในกระเพาะอาหารได้ เป็นต้น
มักใช้รักษาอาการเป็นระยะเวลาสั้นๆ 4 - 8 สัปดาห์ หรือหากจำเป็นต้องใช้ระยะยาว ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง แต่โดยปกติแล้วยานี้มักถูกสั่งจ่ายจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ยานี้ควรใช้อย่างระมัดระวัง
เพราะอาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรงต่อร่างกายได้
เพราะอาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรงต่อร่างกายได้
คำเตือนในการใช้ยา pantoprazole(controloc)
- ไม่ควรใช้ในผู้ที่มีประวัติแพ้ยาแพนโทพราโซล หรือยาที่มีลักษณะใกล้เคียง เช่น แลนโซพราโซล (Lansoprazole) โอมีพราโซล (Omeprazole)
เอสโอมีพราโซล (Esomeprazole) หรือราบีพราโซล (Rabeprazole) - ผู้ป่วยโรคตับร้ายแรง
- ผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) หรือโรคกระดูกบาง (Osteopenia) การใช้ยาแพนโทพราโซล อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเปราะแตกของกระดูกในบริเวณกระดูกสันหลัง ข้อมือ หรือสะโพกได้ ทั้งนี้ยังไม่มีงานวิจัยรองรับแน่นอนว่ายาแพนโทพราโซลคือสาเหตุที่ทำให้เกิดกระดูกเปราะแตกหรือไม่ แต่สามารถเกิดขึ้นได้ในผู้ที่ใช้ยาในปริมาณมากๆ หรือระยะเวลายาว
รวมถึงผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไปด้วย - ระวังการใช้ยาแพนโทพราโซลในผู้ที่มีภาวะแมกนีเซียมในเลือดต่ำ (Hypomagnesemia) เนื่องจากยานี้ทำให้ระดับแมกนีเซียมในกระแสเลือดลดลงมากกว่าปกติ
- ห้ามใช้ยาแพนโทพราโซลในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี
- สตรีมีครรภ์ หรือผู้ที่วางแผนมีบุตรในอนาคต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาแพนโทพราโซล
- ห้ามให้นมเด็กทารกหากมารดากำลังใช้ยาแพนโทพราโซล
เนื่องจากยาชนิดนี้อาจปะปนออกมากับน้ำนมและเป็นอันตรายต่อทารกได้ - การใช้ยาแพนโทพราโซล เป็นเวลานานอาจทำให้ร่างกายดูดซึม
วิตามินบี 12 ได้ลดลงและทำให้ขาดวิตามินบี 12 ได้ - ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรให้ทราบทุกครั้ง หากมีการใช้ยาชนิดอื่นๆ ร่วมกับการใช้ยาแพนโทพราโซล โดยเฉพาะยาต่อไปนี้
- ยาแอมพิซิลลิน(Ampicillin)
- ยาคีโตโคนาโซล (Ketoconazole)
- ยาเมโธเทรกเซท (Methotrexate)
- ยาไมโคฟีโนเลต โมฟีทิล (Mycophenolate Mofetil)
- ยาวาร์ฟาริน (Warfarin) หรือยาคูมาดิน (Coumadin)
- ยาอะทาซานาเวียร์ (Atazanavir) หรือยาเนลฟินาเวียร์ (Nelfinavir) เป็นยาต้านไวรัสเอชไอวีหรือรักษาโรคเอดส์
- ยาที่มีส่วนผสมของธาตุเหล็กอย่าง เฟอรัสฟูมาเรต
(Ferrous Fumarate) เฟอรัสซัลเฟต (Ferrous Sulfate)
หรือเฟอรัสกลูโคเนต (Ferrrous Gluconate)
ผลข้างเคียงจากการใช้ยาpantoprazole(controloc)
ผลข้างเคียงทั่วไปที่สามารถพบได้
- ปวดหัว เวียนหัว
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ปากแห้ง
- ปวดท้อง
- มีลมในท้อง
- ปวดข้อ
- ท้องผูก
- ท้องเสีย
- นอนไม่หลับ
และควรมาพบแพทย์ทันทีหากมีอาการระดับรุนแรง ต่อไปนี้
- เกิดภาวะพร่องแมกนีเซียมในเลือด อาจแสดงอาการ เช่น
หัวใจเต้นเร็วหรือช้าผิดจังหวะ กล้ามเนื้อหดตัวเรื้อรัง
หรืออาการชัก (Seizures) - อาการท้องร่วง (Clostridium Difficile-Associated Diarrhea)
ซึ่งเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง หากพบว่าอาการท้องเสียยังไม่หายไป ร่วมกับมีอาการเจ็บปวดบริเวณท้องหรือกระเพาะอาหาร มีไข้
และมีเลือดหรือมูกในอุจจาระ ผู้ป่วยควรพบแพทย์ทันที - ปวดกระดูก หรือ กล้ามเนื้อ
- เกิดภาวะขาดวิตามินบี 12 อาจแสดงอาการ เช่น อาการเจ็บปวดที่ลิ้น
รู้สึกอ่อนเพลียผิดปกติ รวมทั้งรู้สึกชาหรือเป็นเหน็บที่มือและเท้า - อาการภูมิแพ้รุนแรง หากพบว่ามีผื่นลมพิษขึ้นที่ผิวหนัง
รู้สึกคันโดยเฉพาะที่ใบหน้า ลำคอ และลิ้น เวียนหัวอย่างรุนแรง
รวมทั้งมีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของไต เช่น ปริมาณของปัสสาวะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ ควรรีบติดต่อแพทย์เพื่อรับคำปรึกษากับ
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด
ขนาดของยา pantoprazole(controloc)
ที่ใช้ในการรักษา
Pantoprazole มีในรูปแบบยาเม็ดที่ออกฤทธิ์ได้นานขนาด 20 และ 40 มิลลิกรัม และรูปแบบยาฉีดเข้าเส้นเลือดดำสำหรับใช้ในโรงพยาบาล โดยทั่วไป
แพทย์จะสั่งจ่ายยาขนาด 40 มิลลิกรัมต่อวัน นาน 4-8 สัปดาห์ในการรักษา
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาการและโรคที่เป็นด้วย
ยานี้ควรรับประทานในเวลาเดียวกันทุก ๆ วัน ควรรับประทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่งแม้ว่าอาการของคุณอาจจะดีขึ้นก่อนหน้านั้นก็ตาม
แพทย์จะสั่งจ่ายยาขนาด 40 มิลลิกรัมต่อวัน นาน 4-8 สัปดาห์ในการรักษา
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาการและโรคที่เป็นด้วย
ยานี้ควรรับประทานในเวลาเดียวกันทุก ๆ วัน ควรรับประทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่งแม้ว่าอาการของคุณอาจจะดีขึ้นก่อนหน้านั้นก็ตาม
รูปแบบยาและการออกฤทธิ์ของยา pantoprazole(controloc)
ยา pantoprazole ในรูปแบบเม็ดนั้นเคลือบด้วยสารที่ทนต่อกรดในกระเพาะอาหาร (Gastro-resistant Tablet) ทำให้ยาแตกตัวและดูดซึมได้ที่บริเวณลำไส้เล็ก
แล้วจึงไปออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างกรดที่กระเพาะอาหาร จึงแนะนำให้รับประทานยาก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ขณะท้องว่าง ที่สำคัญ คือ ห้ามเคี้ยว แบ่งยาหรือบดยา เพราะจะทำให้สารที่เคลือบเม็ดยาเสียคุณสมบัติในการออกฤทธิ์ได้
แล้วจึงไปออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างกรดที่กระเพาะอาหาร จึงแนะนำให้รับประทานยาก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ขณะท้องว่าง ที่สำคัญ คือ ห้ามเคี้ยว แบ่งยาหรือบดยา เพราะจะทำให้สารที่เคลือบเม็ดยาเสียคุณสมบัติในการออกฤทธิ์ได้
การได้รับยา pantoprazole(controloc) เกินขนาด
ปัจจุบัน มีข้อมูลเกี่ยวกับการได้รับยา pantoprazole เกินขนาดค่อนข้างจำกัด
ซึ่งในการศึกษาผลของการได้รับยานี้เกินขนาดในหนูและสุนัขพบว่า
จะมีอาการซึม เดินเซ และมือสั่น หากคุณสงสัยว่าคุณ
หรือคนใกล้ตัวได้รับยาเกินขนาด ควรไปพบแพทย์ทันที
ซึ่งในการศึกษาผลของการได้รับยานี้เกินขนาดในหนูและสุนัขพบว่า
จะมีอาการซึม เดินเซ และมือสั่น หากคุณสงสัยว่าคุณ
หรือคนใกล้ตัวได้รับยาเกินขนาด ควรไปพบแพทย์ทันที
หากลืมรับประทานยา pantoprazole(controloc) ควรทำอย่างไร?
หากคุณลืมรับประทานยา ให้รับประทานทันทีที่นึกได้ แต่หากกำลังจะถึงเวลาที่ต้องรับประทานยาครั้งถัดไป ให้ข้ามยาที่ลืมเม็ดนั้นได้เลย
และไม่ควรรับประทานยาเกินกว่าที่แพทย์สั่ง
และไม่ควรรับประทานยาเกินกว่าที่แพทย์สั่ง
สั่งซื้อได้ทาง Line ID : @zww3579z
No comments:
Post a Comment