Sunday, June 2, 2019

ข้อมูลยา Azithromycin (Zithromax)

Azithromycin 
เป็นชื่อสามัญของยา Zithromax, Zmax และ Z-Pak เป็นยาที่จ่ายตามใบสั่งแพทย์ จัดเป็นยาปฏิชีวนะใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรีย
เช่น แมวข่วน ติดเชื้อที่หู ติดเชื้อที่ผิวหนัง, คอ หรือต่อมทอนซิล

นอกจากนั้น ยังใช้รักษาโรคปอดและระบบทางเดินหายใจติดเชื้อ เช่น
โรคหลอดลมอักเสบ ไซนัสอักเสบ ปอดบวม โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
(chronic obstructive pulmonary disease (COPD))
และโรคไอกรน (pertussis) อีกทั้งยังเป็นใช้รักษาอาการติดเชื้อที่อวัยวะเพศและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น 
หนองใน การติดเชื้อในท่อปัสสาวะหรือ
ปากมดลูก แผลที่อวัยวะเพศและโรคอุ้งเชิงกรานอักเสบอย่างรุนแรง 




Azithromycin เป็นยาปฏิชีวนะอยู่ในกลุ่ม macrolide ซึ่งทำงานโดยป้องกันเชื้อแบคทีเรียไม่ให้สร้างโปรตีนของตัวมันเอง เช่นเดียวกับยาปฏิชีวนะอื่นๆ
เพื่อป้องกันภาวะเชื้อดื้อยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA)
ได้แนะนำแพทย์ให้ใช้ยาต่อเมื่อมั่นใจว่าเป็นการติดเชื้อที่ตัวยาชนิดนี้มีประสิทธิภาพในการรักษา องค์การอาหารและยาได้อนุมัติยา azithromycin
ครั้งแรกภายใต้ชื่อการค้า Zithromax ในปี 1991
โดย Pfizer Pharmaceuticals เป็นผู้ผลิต

คำเตือนในการใช้ยา azithromycin

Azithromycin สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติในระบบไฟฟ้า
ของหัวใจ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติรุนแรง
ตามคำเตือนพิเศษขององค์การอาหารและยาในปี 2012
ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณมีภาวะต่อไปนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับยา azithromycin
  • ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติหรือเต้นช้า
  • ระดับ potassium และ magnesium ในเลือดไม่ปกติ
  • แพ้ยา azithromycin หรือเคยเจอภาวะที่ azithromycin
    กระตุ้นให้เกิดภาวะดีซ่าน (cholestatic jaundice)
    ซึ่งทำให้น้ำดีเก็บที่ตับไม่ได้
    เกิดภาวะผิวหนัง ตาหรือเล็บเป็นสีเหลือง
  • มีการใช้ยา pimozide (Orap)
ก่อนใช้ยา azithromycin ควรแจ้งแพทย์หากคุณมีอาการดังนี้
  • หัวใจเต้นผิดปกติหรือเต้นช้า
  • มีปัญหาเกี่ยวกับตับ รวมทั้งเคยเป็นหรือเป็นไวรัสตับอักเสบอยู่
  • มีปัญหาไตรุนแรง
  • มีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง (myasthenia Gravis)
  • ก่อนที่จะใช้ azithromycin ในโรคหนองในหรือซิฟิลิส
    ควรมีการทดสอบยืนยันเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อว่าตอบสนองต่อการใช้ยา azithromycinหรือไม่ เนื่องจากพบว่าในคนที่ใช้ azithromycin เป็นเวลานาน มีแนวโน้มที่เชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราจะพัฒนาเป็นสายพันธุ์ที่รุนแรงมากขึ้น ทำให้รักษายากขึ้น

การตั้งครรภ์และการใช้ Azithromycin

โดยทั่วไป Azithromycin จัดเป็นยาที่ปลอดภัยสำหรับภาวะตั้งครรภ์
แต่ควรบอกแพทย์ถึงภาวะตั้งครรภ์หรือกรณีวางแผนจะตั้งครรภ์ก่อนทุกครั้ง
ยังไม่มีการตรวจสอบว่า azithromycin พบในนมแม่หรือไม่
แต่ควรแจ้งแพทย์ว่าคุณอยู่ในช่วงให้นมบุตรหรือวางแผนที่จะให้นมบุตรก่อนเริ่มใช้ยา azithromycin

อาการข้างเคียงของ Azithromycin ที่พบบ่อย

คนส่วนมากพบอาการข้างเคียงจากยา azithromycin ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับยาปฏิชีวนะอื่นๆ ในกลุ่ม macrolide เช่น erythromycin (Erythrocin)
ผลข้างเคียงที่อาจพบเฉพาะกรณีที่ใช้ในปริมาณสูง
เช่น กิน azithromycin เพียงครั้งเดียว
ควรแจ้งแพทย์หากพบอาการใดๆ ต่อไปนี้
  • คลื่นไส้
  • อาเจียน
  • ท้องร่วง
  • มีลมในท้อง
  • อุจจาระเหลว
  • ไม่สบายท้อง
  • ตะคริว
  • ติดเชื้อในช่องคลอด

ผลข้างเคียงร้ายแรง

ขอรับความช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ทันทีถ้าคุณพบอาการใดๆ ต่อไปนี้
  • เจ็บหน้าอก
  • ชัก
  • บวมที่เท้าหรือข้อเท้า
  • การอักเสบของลำไส้ใหญ่
    (อาจมีอาการปวดท้อง ท้องเสียอย่างรุนแรง ปวดเมื่อย)
  • มีของเหลวถูกสร้างขึ้นระหว่างปอดและผนังหน้าอก (อาจมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกหรือหายใจลำบาก)
  • ปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาวต่ำ
    (ซึ่งตรวจสอบจากเลือดในห้องปฏิบัติการ อาการแสดงคืออ่อนเพลีย
    เหนื่อยง่าย หายใจถี่ หรือภาวะติดเชื้อที่หายยาก)

Azithromycin กับปฏิกิริยากับยาอื่น

เป็นเรื่องสำคัญที่ควรแจ้งแพทย์และเภสัชกรเกี่ยวกับยา วิตามิน อาหารเสริม
(รวมถึงผงโปรตีน) สมุนไพร ยาเสพติด ของมึนเมา
ทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ไม่ควรกินยา Azithromycin ร่วมกับยาเหล่านี้ และควรแจ้งแพทย์เพื่อเปลี่ยนยาปฏิชีวนะที่ไม่ใช่ azithromycin
ถ้าคุณต้องใช้ยาต่อไปนี้
  • pimozide (Orap)
  • BCG Vaccine (Theracrys)
  • Dronedarone (Multaq)
  • ยาที่ทำให้เลือดข้นน้อยลง เช่น enoxaparin (Lovenox), fondaparinux (Arixta), warfarin (Coumadin or Jantoven) 
ยาที่ใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดอุดตัน เช่น ระหว่างหรือหลังการผ่าตัด
หรือในสถานการณ์ที่เสี่ยงกับภาวะรอดชีวิตเช่น
  • antithrombin III (Thrombin)
  • bivalirudin (Angiomax)
  • dalteparin (Fragmin)
  • amiodarone (Cordarone, Pacerone, Nextarone)
  • digoxin (Lanoxin)
  • วัคซีนไทฟอยด์ (Vivotif)
  • quinidine

Azithromycin และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้อาการข้างเคียงที่เกิดจาก azithromycin
ดีขึ้นหรือแย่ลง เช่น อาการวิงเวียนศีรษะและปวดท้อง Azithromycin
และน้ำผลไม้ส้มโอ (Grapefruit Juice) น้ำผลไม้ส้มโอและ azithromycin ต้องไปผ่านขบวนการสลายที่ตับ ดังนั้นจึงอาจมีปฎิกิริยาต่อกันได้ เพื่อความปลอดภัยควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากส้มโอ (grapefruit) ทั้งหมดในช่วงที่ใช้ยานี้
ขนาดยากินของ azithromycin Azithromycin มีรูปแบบเป็นยาเม็ด ยาน้ำ ยาฉีดผ่านทางหลอดเลือดดำ (IV)  และชนิดผงแห้งผสมน้ำ Azithromycin
สามารถกินได้ทั้งก่อนและหลังอาหาร แพทย์อาจกำหนดการกินยา azithromycin ในระยะเวลาที่สั้นกว่ายาปฏิชีวนะอื่น ๆ เช่น อาจกินปริมาณยาที่สูงขึ้นแค่วันเดียวหรือ3-5วัน โดยใช้ Z-Pak ซึ่งจะเริ่มยาในปริมาณที่สูงกว่าการใช้ยาปกติ
ปริมาณและระยะเวลาในการรักษา azithromycin แตกต่างกันไปตามประเภทของการติดเชื้อ
  • ติดเชื้อที่ผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิว: วันแรก 500 มิลลิกรัม (มก.)
    ตามด้วย 250 มิลลิกรัม/วัน เป็นเวลา 4 วัน
  • ติดเชื้อที่ลำคอและต่อมทอนซิล: วันแรก 500 มิลลิกรัม (มก.)
    ตามด้วย 250 มิลลิกรัม/วัน เป็นเวลา 4 วัน
  • ปอดบวม (Community Acquired Pneumonia (CAP)):
    วันแรก 500 มิลลิกรัม (มก.) ตามด้วย 250 มิลลิกรัม/วัน เป็นเวลา 4 วัน
  • เป็นแผลที่อวัยวะเพศ (Genital Ulcer Disease): 1 กรัม (g) เพียงครั้งเดียว
  • การติดเชื้อโพรงจมูกเนื่องจากเชื้อแบคทีเรีย: 500 มิลลิกรัม/วันเป็นเวลา
    3 วัน หรือ 2 กรัมครั้งเดียว
การได้รับ azithromycin เกินขนาด หากคุณสงสัยว่ายาเกินขนาด ควรติดต่อแผนกฉุกเฉินทันที กรณีลืมกินยา Azithromycin หากคุณลืมกินยา Azithromycin
ควรกินเม็ดที่ลืมให้เร็วที่สุดเมื่อนึกได้ เว้นแต่ถ้านึกได้เมื่อใกล้เวลากินมื้อต่อไป
ควรข้ามเม็ดที่ลืมและเริ่มกินยาเม็ดต่อไปในเวลาปกติ
ไม่ควรกินยาสองเท่าในเวลาเดียวกัน
สั่งซื้อได้ทาง Line ID : @zww3579z

No comments:

Post a Comment